โครงการ จังหวัดกาญจนบุรี ศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ จังหวัด กาญจนบุรี เป็นจังหวัดหนึ่งที่ตั้งอยู่ในภาคตะวันตกของประเทศไทย มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 19,473 ตารางกิโลเมตร มีพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศ รองจากจังหวัดนครราชสีมา
ผังพื้นที่ กรณีศึกษา โครงการบ้านพักสหกรณ์ออมทรัพย์ ราชการทหารผ่านศึกและ สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูทั่วประเทศ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย
จังหวัด กาญจนบุรี
ลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย (TARGET GROUP) เพื่อสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ข้าราชการและทหาร
โครงการบ้านพักคนชรา ซีเนียร์คอมเพล็ก กรณีศึกษา โครงการบ้านพักสหกรณ์ออมทรัพย์ ราชการทหารผ่านศึกและ สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูทั่วประเทศ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย ในจังหวัด กาญจนบุรี
เมื่อพิจารณาจากผลการสำรวจแบบสอบถาม เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาถึงกลุ่มลูกค้าเป้ามีความสุข คุ้มค่าต่อการลงทุน ต้อนรับการท่องเที่ยวระดับ อาเซียน AEC
ประเทศไทย เป็นจุดที่น่าอยู่อาศัยมากที่สุดในโลก ทั้งสังคมและวัฒนธรรม อาหารการกิน การอยู่อาศัยที่เรียบง่าย เป็นที่น่าสนใจของคนต่างประเทศเป็นทางเลือกของชนชาติอื่น ทั้งกลุ่มยุโรปและรัสเซียและตะวันออกกลาง เป็นอย่างยิ่ง อันนี้ น่าสนใจในการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ โครงการบ้านพักคนชรา ซีเนียร์คอมเพล็ก จะพบว่า กลุ่มครอบครัวคนรุ่นใหม่ที่อยู่ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีรายได้ระดับปานกลาง และมีปริมาณการการลงทุนซื้อบ้านเพื่อการลงทุนและอยู่อาศัย ที่สามารถเลือกได้ ในสัดส่วนที่สูง จะมีแนวโน้มการซื้อ ทำให้ตลาดบ้านมีความต้องการกับคนรุ่นใหม่ ในระดับที่สูง
ดังนั้น ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของผลิตภัณฑ์บ้านที่อยู่อาศัยมีลักษณะดังนี้
-นักท่องเที่ยว อยู่ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และเมืองใหญ่ๆที่ประทับใจใน บรรยากาศ จังหวัดกาญจนบุรี
- ครอบครัวคนรุ่นใหม่ เนื่องจากผลการวิจัยชี้ให้เห็นว่า ถ้ามีคนใดในครอบครัวซื้อบ้านจัดสรร
แล้วประมาณ 74.6% ของคนในครอบครัวนั้น จะซื้อบ้านจัดสรรด้วย บริษัทจึงเลือกกลุ่มเป้าหมายเป็น
ครอบครัว ข้าราชการที่ทำงานรับใช้ชาติและ ปลดประจำการและเป็นสมาชิกสหกรณ์อมทรัพย์ทั่วไป
- สนใจในคุณค่าคุณภาพชีวิตที่ดีและสร้างชีวิตครอบครัวใหม่และรักษาคุณภาพชีวิตที่ดี
เป็นปัจจัยสำคัญในอันดับต้นๆ
- ระดับรายได้ประมาณไม่เกิน 20,000 บาท เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีแนวโน้มการซื้อบ้านหลังแรก
ค่อนข้างสูงคือ 63.8%ซึ่งสอดคล้องกับระดับราคาที่ผู้บริโภคคิดว่าเหมาะสมต่อการซื้อบ้านหลังแรกคุณภาพที่ดีๆเหมาะกับยุคปัจจุบันคือ ราคา 1,900,000-2,500,000บาท ซึ่งจะเห็นว่า ระดับค่อนข้างตํ่า กว่าระดับราคาและคุณภาพที่จำหน่ายในปัจจุบันและหลายโครงการดังๆ ก็จะใช้หลักการนี้จัดจำหน่ายอยู่ในตลาดปัจจุบัน คือผู้บริโภคจะคำนึงถึงความคุ้มค่าเมื่อเทียบคุณค่าผลิตภัณฑ์กับราคาและคุณภาพ
ผู้บริโภคกลุ่ม
จุดเป้าหมายชัด เพื่อ สมาชิก สหกรณ์ออมทรัพย์ ครู ข้าราชการ สหกรณ์ทหารผ่านศึก เป้าหมายชัดมากครับ โครงการบ้านพักคนชรา ซีเนียร์คอมเพล็ก ที่มีรายได้ประมาณไม่เกิน 20,000 บาทที่มีกำลังผ่อนสะบายๆ มีอัตราการซื้อบ้านหลังที่ 2 สูงกว่าทุกช่วงรายได้อื่นๆ อีกด้วย
จุดเป้าหมายชัด เพื่อ สมาชิก สหกรณ์ออมทรัพย์ ครู ข้าราชการ สหกรณ์ทหารผ่านศึก เป้าหมายชัดมากครับ โครงการบ้านพักคนชรา ซีเนียร์คอมเพล็ก ที่มีรายได้ประมาณไม่เกิน 20,000 บาทที่มีกำลังผ่อนสะบายๆ มีอัตราการซื้อบ้านหลังที่ 2 สูงกว่าทุกช่วงรายได้อื่นๆ อีกด้วย
- ปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อในระดับที่สูงของกลุ่มเป้าหมายดังกล่าว คือ ความรู้สึกของการเป็นเจ้าของบ้านสมัยใหม่-คุณภาพในการชีวิต
- นอกจากลูกค้าหลักแล้ว บริษัทยังพิจารณาถึงกลุ่มลูกค้ารองด้วย คือ กลุ่มที่มีรายได้ช่วง
20,001 – 40,000 บาท เนื่องจากมีแนวโน้มการซื้อค่อนข้างสูง เช่นเดียวกับลูกค้าหลัก คือ 43.2% และมีปริมาณการซื้อบ้านในระดับปานกลาง ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา มาก ปานกลาง น้อย
< 20,000 20,000-50,000 > 50,000 รายได้
กลุ่มลูกค้าหลัก : ปริมาณการดื่มสูง กลุ่มครอบครัวที่สนใจในสุขภาพ
ในก.ท.ม. และปริมณฑลรอบจังหวัดและ นักท่องเที่ยวที่ประทับใจ ใน บรรยากาศ กรุงเทพฯมหานคร
การวางตำ แหน่งผลิตภัณฑ์ (POSITIONING)
โครงการบ้านพักคนชรา ซีเนียร์คอมเพล็ก โครงการบ้านพักสหกรณ์ออมทรัพย์ ราชการทหารผ่านศึกและ สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูทั่วประเทศ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย จังหวัด กาญจนบุรี
ผลิตภัณฑ์ของบริษัทมีความคุ้มค่าที่สุด เนื่องจากประโยชน์ในแง่การเก็บคุณภาพของบ้าน ให้คุณภาพที่ดีต่อ ลูกค้า อีกทั้งยังมีคุณค่าทางจิตใจให้ความรู้สึกที่ดี เมื่อเดินเข้าบ้านๆสูงโปร่งสว่างสวยรู้สึกไม่อึดอัด ที่แตกต่างจากคู่แข่ง คือ แคบและเตี้ยซึ่งไม่เหมาะกับผู้บริโภคทุกวัยในครอบครัว ซึ่งเป็นจุดเด่นที่แตกต่างจากผลิตภัณฑ์ของคู่แข่งหรูหรา ภูมิฐาน กิจกรรมครบ มากมาย ก่อเกิดสังคมที่ดีเหมาะกับผู้สูงอายุ ที่ฝากชีวิตไว้กับเรา สุดสวยและอบอุ่น ดร.สมัย เหมมั่น กรรมการ บริหารการจัดการ โครงการบ้านพักคนชรา ซีเนียร์คอมเพล็ก จังหวัดกาญจนบุรี
กลยุทธ์ทางการตลาด (MARKETING STRATEGY)
โครงการบ้านพักคนชรา ซีเนียร์คอมเพล็ก จังหวัด กาญจนบุรีมี จุดเป้าหมายชัด เพื่อ สมาชิก สหกรณ์ออมทรัพย์ ครู ข้าราชการ สหกรณ์ทหารผ่านศึก เป้าหมายชัดมากครับ โครงการบ้านพักคนชรา ซีเนียร์คอมเพล็ก ที่มีรายได้
กลยุทธ์ในการเข้าสู่ธุรกิจ บริษัทเลือกที่จะจำหน่ายผลิตภัณฑ์ให้กับบริโภคกลุ่มเป้าหมายหลักเป็นอันดับแรก โดยจะจัดทำ ซุ้มแจกเอกสารแนะผลิตภัณฑ์ แบบสูงโปรงสุดสวยแถมมีคุณภาพที่ดีในการอยู่อาศัย แนะนำชม บ้านเสร็จแล้วให้กลุ่มเป้าหมายให้ทดลองสำพลัดบ้านตัวอย่าง
พร้อมแจกเอกสารแนะนำโครงการ ที่จะทำ การแจกให้กลุ่มเป้าหมายที่เป็นเป้ารอง จะทดลองให้ชมสินค้าได้แก่ บริเวณห้างเซนทัลพระรามสอง มินิมอล์ ใน ห้างดังทั่วประเทศ ในห้างโลตัสบางใหญ่ โลตัส บิกซี วัดๆสำคัญในจังวัดๆวัดดังๆ และสวนสนุกสวนน้ำสวนป่า สวนสนุกเทศกาลต่างๆ งานกาชาติจังหวัดงานมหกรรมบ้าน
กรณีเป็นกลุ่มเป้าหมายอื่น ซึ่งเป็นสถานีที่กลุ่มเป้าหมายมักจะมีกิจกรรมร่วมกับครอบครัวซึ่งมีหลายเหตุผลที่เราพิจารณาเลือกเข้าตลาดนี้เป็นอันดับแรก และกลุ่มเป้าหมายจะมีครอบครัว กลุ่มตัวอย่างมีแนวโน้มการซื้อบ้านผงค่อนข้างสูง คือ ประมาณ 63.8%ของกลุ่มตัวอย่าง
ต้นทุนทางการตลาดเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายไม่สูงมากนัก เนื่องจากการใช้ลักษณะทำ ซุ้ม แจก
เอกสารพาชมเชิญชวน วิธีนี้มีค่าใช้จ่ายเพียง ค่าตกแต่งซุ้ม ค่าตัวอย่างผลิตภัณฑ์ และ
พนักงานแจกแนะนำสินค้าเท่านั้น ซึ่งถ้ากลุ่มตัวอย่างเกิดชอบบ้าน แล้วเกิดการชอบก็จะก่อให้เกิดการซื้อซํ้าๆและการบอกต่อ ผู้บริโภครายอื่นๆ ที่เป็นญาติหรือคนรู้จัก ในสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูและสหกรณ์ออมทรัพย์ ทั่วประเทศ หรือข้าราชการทหารผ่านศึก
โดยในช่วงแรกจะใช้ช่องทางการแนะนำบ้านให้รู้จักที่ หน้าร้าน สะดวกซื้อเป็นหลัก โดยใช้ช่องทางซุปเปอร์มาร์เก็ตและซุปเปอร์สโตร์เป็นช่องทางเสริม เนื่องจากจะโชร์ แผ่นป้าย โชร์ผลิตภัณฑ์หน้าร้านสะดวกซื้อแลพในร้านค้าสหกรณ์ทุกแห่งที่เป็นสมาชิก สหกรณ์ออมทรัพย์ ทุกแห่งที่มี ซื้อมีให้ผู้บริโภคตัดสินใจเลือกซื้อได้น้อยกว่าซุปเปอร์มาร์เก็ต และซุปเปอร์สโตร์ ทำ ให้ผู้บริโภคมี โอกาสจะเห็นสื่อ และจะมาชมและเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ของบริษัทมากกว่าช่องทางอื่นๆ อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้บริโภครู้จักบ้าน ผลิตภัณฑ์ มาก หมายมากขึ้นโดยทำ การโฆษณาประชาสัมพันธ์ควบคู่กันไป เพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายได้ ครอบคลุม และช่วยสร้าง Brand สำหรับผลิตภัณฑ์ได้เร็วขึ้น
จังหวัดกาญจนบุรี
บทความนี้ต้องการการจัดหน้า จัดหมวดหมู่ ใส่ลิงก์ภายใน หรือเก็บกวาดเนื้อหา ให้มีคุณภาพดีขึ้น คุณสามารถปรับปรุงแก้ไขบทความนี้ได้ และนำป้ายออก พิจารณาใช้ป้ายข้อความอื่นเพื่อชี้ชัดข้อบกพร่อง
|
บทความนี้ยังต้องการเพิ่มแหล่งอ้างอิงเพื่อพิสูจน์ความถูกต้อง คุณสามารถพัฒนาบทความนี้ได้โดยเพิ่มแหล่งอ้างอิงตามสมควร เนื้อหาที่ขาดแหล่งอ้างอิงอาจถูกลบออก
|
สำหรับกาญจนบุรี ในความหมายอื่น ดูที่ กาญจนบุรี (แก้ความกำกวม)
|
เนื้อหา
ประวัติ[แก้]
ความเป็นมาของกาญจนบุรี เท่าที่มีการค้นพบหลักฐานนั้น ย้อนไปได้ถึงสมัยก่อนประวัติศาสตร์ เมื่อมีการค้นพบเครื่องมือหินในบริเวณบ้านเก่า อำเภอเมืองกาญจนบุรี ล่วงมาถึงสมัยทวารวดี ซึ่งมีหลักฐานคือซากโบราณสถานที่ตำบลปรังเผล อำเภอสังขละบุรี เป็นเจดีย์ลักษณะเดียวกับจุลประโทนเจดีย์ที่จังหวัดนครปฐม บ้านคูบัว จังหวัดราชบุรี และเมืองอู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี รวมทั้งค้นพบโบราณวัตถุ เช่น พระพิมพ์สมัยทวารวดีจำนวนมาก[3] สืบเนื่องต่อมาถึงสมัยพุทธศตวรรษที่ 16-18 หลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่ค้นพบคือปราสาทเมืองสิงห์ ซึ่งมีรูปแบบศิลปะแบบขอม[3] สมัยบายนกาญจนบุรียังปรากฏในพงศาวดารเหนือว่า กาญจนบุรีเป็นเมืองขึ้นของสุพรรณบุรีในสมัยสุโขทัย ครั้นมาถึงสมัยอยุธยา กาญจนบุรีก็มีฐานะเป็นเมืองหน้าด่านสำคัญในการทำสงครามระหว่างกองทัพไทยกับพม่า จนกระทั่งถึงสมัยกรุงธนบุรีและรัตนโกสินทร์ เดิมตัวเมืองกาญจนบุรีเดิมนั้นตั้งอยู่ที่ตำบลลาดหญ้า (บริเวณเขาชนไก่ในปัจจุบัน) ภายหลังจนถึง พ.ศ. 2374 พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ได้โปรดให้ก่อสร้างกำแพงเมืองและป้อมปราการขึ้นเป็นการถาวร ณ เมืองกาญจนบุรีใหม่โดยตั้งอยู่ ณ ตำบลปากแพรก อันเป็นสถานที่บรรจบของแม่น้ำแควใหญ่และแม่น้ำแควน้อย โดยตัวเมืองอยู่ฝั่งตะวันออกของแม่น้ำแม่กลองกับแม่น้ำแควใหญ่ ซึ่งมีความเหมาะสมทางยุทธศาสตร์และด้านการค้า โดยเริ่มก่อสร้างเมืองเมื่อวันที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2374 และสำเร็จในวันที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2375 และได้แยกออกจากสุพรรณบุรีนับแต่นั้นเป็นต้นมา ทั้งนี้โดยมีพระราชประสงค์ส่วนใหญ่เพื่อติดต่อค้าขายกับเมืองราชบุรี ดังพระราชนิพนธ์เสด็จประพาสไทรโยค กล่าวไว้ตอนหนึ่งว่า "แต่มีเมืองปากแพรกเป็นที่ค้าขาย ด้วยเขาชนไก่เมืองเดิมอยู่เหนือมากมีแก่งถึงสองแก่ง ลูกค้าไปมาลำบาก จึงลงมาตั้งเมืองเสียที่ปากแพรกนี้เป็นทางไปมาแก่เมืองราชบุรีง่าย เมืองที่สร้างขึ้นใหม่ กว้าง 5 เส้น ยาว 10 เส้น 18 วา มีป้อม 4 มุมเมือง ป้อมย่านกลางด้านยาวตรงหน้าเมืองทิศตะวันตกเฉียงใต้มีป้อมใหญ่อยู่ตรงเนิน ด้านหลังมีป้อมเล็กตรงกับป้อมใหญ่ 1 ป้อม" การสร้างเมืองกาญจนบุรีใหม่นี้ ดังปรากฏในศิลาจารึกดังนี้ ให้พระยาราชวรินทร์ เจ้ากรมพระตำรวจเป็นพระยาประสิทธิสงครามรามภักดีศรีพิเศษประเทศนิคมภิรมย์ราไชยสวรรค์พระยากาญจนบุรี ครั้งกลับเข้าไปเฝ้าโปรดเกล้าฯ ว่าเมืองกาญจนบุรีเป็นเมืองอังกฤษ พม่า รามัญ ไปมาให้สร้างเมืองก่อกำแพงขึ้นไว้จะได้เป็นชานพระนครเขื่อนเพชรเขื่อนขัณฑ์มั่นคงไว้แห่งหนึ่ง ในปัจจุบันกำแพงถูกทำลายลงโดยธรรมชาติและหน่วยราชการเพื่อประโยชน์อย่างอื่น เหลือเพียงประตูเมืองและกำแพงเมืองบางส่วน[3]
ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 5 เมื่อมีการจัดรูปแบบการปกครองเป็นมณฑลเทศาภิบาล กาญจนบุรีถูกโอนมาขึ้นกับมณฑลราชบุรี[4] และยกฐานะเป็นจังหวัดกาญจนบุรีในปี พ.ศ. 2467
เหตุการณ์ที่ทำให้กาญจนบุรีมีชื่อเสียงไปทั่วโลก คือช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อญี่ปุ่นได้ตัดสินใจสร้างทางรถไฟยุทธศาสตร์ จากชุมทางหนองปลาดุกในประเทศไทยไปยังเมืองทันบูซายัตในพม่า โดยเกณฑ์เชลยศึกและแรงงานจำนวนมากมาเร่งสร้างทางรถไฟอย่างหามรุ่งหามค่ำ จนทำให้มีผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมาก ทั้งจากความเป็นอยู่ที่ยากแค้นและโรคภัยไข้เจ็บที่รุมเร้า ซึ่งภาพและเรื่องราวของความโหดร้ายในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ปรากฏอยู่ในพิพิธภัณฑ์หลายแห่งในกาญจนบุรี
ชื่อเรียกอื่น ๆ ของกาญจนบุรี เช่น เมืองกาญจน์ ปากแพรก ศรีชัยยะสิงหปุระ[5] (ซึ่งในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 เรียกเมืองกาญจนบุรีว่า ศรีชัยยะสิงหปุระ) และเมืองขุนแผน เป็นต้น
ภูมิศาสตร์[แก้]
อาณาเขตติดต่อ[แก้]
ตามภูมิศาสตร์ที่ตั้ง จังหวัดกาญจนบุรีเป็นจังหวัดที่อยู่ในภาคตะวันตก มีพื้นที่ติดต่อกับจังหวัดอื่น ๆ 5 จังหวัด ดังนี้- ทิศเหนือ ติดกับจังหวัดตาก รัฐมอญ และรัฐกะเหรี่ยง ประเทศพม่า
- ทิศตะวันออก ติดกับจังหวัดอุทัยธานี และจังหวัดสุพรรณบุรี
- ทิศใต้ ติดกับจังหวัดนครปฐม และจังหวัดราชบุรี
- ทิศตะวันตก ติดกับรัฐมอญ และเขตตะนาวศรี ประเทศพม่า โดยมีแนวเขาสำคัญแบ่งเขตแดนระหว่างไทยกับพม่าคือทิวเขาถนนธงชัย และทิวเขาตะนาวศรี
ภูมิประเทศ[แก้]
พื้นที่ส่วนใหญ่ของจังหวัดเป็นป่าไม้และภูเขาสูง โดยเฉพาะพื้นที่ทางด้านเหนือและตะวันตกของจังหวัด ถึงแม้จังหวัดกาญจนบุรีจะมีเขตพื้นที่ติดกับจังหวัดตากทางด้านทิศเหนือ แต่ก็ไม่มีถนนเชื่อมต่อกัน เนื่องจากมีเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ซึ่งเป็นมรดกโลกและมีป่าที่อุดมสมบูรณ์รกทึบสลับกับมีภูเขาอันสลับซับซ้อน หากจะเดินทางติดต่อกันต้องอ้อมไปทางจังหวัดสุพรรณบุรี จังหวัดชัยนาท จังหวัดนครสวรรค์ จังหวัดกำแพงเพชร แล้วจึงเข้าจังหวัดตาก ซึ่งมีระยะทางกว่า 490 กิโลเมตร และหากต้องการเดินทางไปอำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก ซึ่งมีอาณาเขตติดต่อกับจังหวัดกาญจนบุรี จะต้องเดินทางย้อนลงมาทางใต้รวมระยะทางกว่า 700 กิโลเมตรลักษณะภูมิประเทศจังหวัดกาญจนบุรี แบ่งออกได้ 3 ลักษณะดังนี้
- เขตภูเขาและที่สูง พื้นที่ทางด้านทิศเหนือของจังหวัด ได้แก่ บริเวณอำเภอสังขละบุรี อำเภอทองผาภูมิ อำเภอศรีสวัสดิ์ และอำเภอไทรโยค มีลักษณะเป็นเทือกเขาต่อเนื่องมาจากเทือกเขาถนนธงชัยถัดไปทางด้านตะวันตกของจังหวัด เทือกเขาตะนาวศรีซึ่งกั้นพรมแดนระหว่างไทยกับประเทศพม่าทอดยาวลงไปทางด้านใต้ บริเวณนี้จะเป็นแหล่งกำเนิดต้นน้ำที่สำคัญของจังหวัด คือ แม่น้ำแควใหญ่ และแม่น้ำแควน้อย ซึ่งในแถบนี้จะมีรอยเลื่อนอยู่หลายรอยและมักเกิดแผ่นดินไหวในพื้นที่บ่อยครั้ง
- เขตที่ราบลูกฟูก ได้แก่ พื้นที่ตะวันออกเฉียงเหนือของจังหวัด มีลักษณะเป็นที่ราบเชิงเขาสลับกับเนินเขาเตี้ย ๆ อยู่บริเวณอำเภอเลาขวัญ อำเภอบ่อพลอย และบางส่วนของอำเภอพนมทวน
- เขตที่ราบลุ่มน้ำ ได้แก่ พื้นที่ทางด้านใต้ของจังหวัด ลักษณะเป็นที่ราบ ดินมีความอุดมสมบูรณ์ อยู่บริเวณอำเภอท่ามะกา อำเภอท่าม่วง และบางส่วนของอำเภอพนมทวน อำเภอเมืองกาญจนบุรี
ภูมิอากาศ[แก้]
- ฤดูร้อน ระหว่างกลางเดือนกุมภาพันธ์ถึงกลางเดือนพฤษภาคม มีลมฝ่ายใต้พัดมาปกคลุม ทำให้มีอากาศร้อนอบอ้าวทั่วไป โดยมีอากาศร้อนจัดอยู่ในเดือนเมษายน
- ฤดูฝน ระหว่างกลางเดือนพฤษภาคม ถึงเดือนพฤศจิกายน ในระยะนี้เป็นช่วงที่ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุม ทำให้มีฝนตกชุกโดยตกชุกที่สุดในเดือนกันยายน
- ฤดูหนาว ระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงกลางเดือนกุมภาพันธ์ โดยในช่วงนี้ ความกดอากาศสูงจากประเทศจีนและลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุม ทำให้อากาศหนาวเย็นและความแห้งแล้งแผ่ปกคลุมจังหวัดกาญจนบุรี
ธรณีวิทยา[แก้]
ในด้านทรัพยากรดิน พื้นที่ส่วนใหญ่ของจังหวัดกาญจนบุรีมีภูเขาสลับซับซ้อน พื้นที่ที่เหมาะสำหรับเกษตรกรรมคือ ที่ราบระหว่างภูเขาซึ่งมีแม่น้ำและลำน้ำสายต่าง ๆ ไหลผ่าน เนื่องจากเป็นบริเวณที่มีหินปูน หินแกรนิต หินแกรไนโอออไรท์ หินไนล์ หินดินดาน หินควอทโซฟีลไลท์ เป็นวัตถุต้นกำเนิดดิน ที่ราบระหว่างหุบเขาและสองฝั่งแม่น้ำจึงมีลักษณะเป็นตะกอนที่เกิดจากการสลายตัวของหินดังกล่าวแล้วถูกน้ำพัดพามาทับถม และเนื่องจากพื้นที่ส่วนนี้มีหินปูนเป็นส่วนใหญ่ ดินจึงมีปฏิกิริยาเป็นกลางหรือเป็นด่าง มีความอุดมสมบูรณ์ปานกลางถึงดี จึงเป็นแหล่งเพาะปลูกพืชไร่ที่สำคัญของประเทศเช่น อ้อย ข้าวโพด มันสำปะหลัง และสับปะรด ส่วนในบริเวณที่ราบต่ำใช้ปลูกข้าวแต่มีเนื้อที่ไม่มากนักอุทกวิทยา[แก้]
ในด้านทรัพยากรน้ำ จังหวัดกาญจนบุรีมีแหล่งน้ำที่สำคัญ 3 ประเภทคือ- น้ำใต้ดินหรือน้ำบาดาล ต้นกำเนิดของแหล่งน้ำบาดาลส่วนใหญ่มาจากน้ำฝนซึ่งตกสู่ผิวดินลงไปกับเก็บใต้ชั้นดิน พื้นที่ทางตอนบนและทางตะวันตกของจังหวัดซึ่งมีสภาพเป็นที่สูงภูเขา รองรับด้วยหินแปรปริมาณน้ำบาดาลจึงมีน้อยมาก ส่วนพื้นที่ทางตะวันออกและทางใต้ของจังหวัดเป็นที่ราบลุ่ม มีแหล่งน้ำบาดาลสามารถนำขึ้นมาใช้ได้ แต่ยังคงมีปริมาณน้อย
- น้ำผิวดิน แหล่งน้ำผิวดินมีต้นน้ำอยู่ทางตอนเหนือของจังหวัดถึงเขตจังหวัดอุทัยธานี ลักษณะทางน้ำเป็นร่องลึกในระหว่างหุบเขา มีธารน้ำบางสายไหลขึ้นไปทางเหนือสู่ประเทศพม่า แต่ลำธารส่วนใหญ่ไหลลงสู่แม่น้ำแควน้อยและแควใหญ่ ก่อนจะรวมตัวกันเป็นแม่น้ำแม่กลอง ส่วนด้านตะวันออกมีลำตะเพินเป็นธารน้ำสำคัญของบริเวณนี้ แหล่งน้ำผิวดินที่สำคัญ ได้แก่ แม่น้ำแควน้อย แม่น้ำแควใหญ่ (ศรีสวัสดิ์) แม่น้ำแม่กลอง แม่น้ำลำตะเพิน
- น้ำจากการชลประทาน จังหวัดกาญจนบุรีเป็นที่ตั้งของอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่หลายแห่งเพื่อวัตถุประสงค์หลักในการผลิตกระแสไฟฟ้า แต่สิ่งที่ได้รับผลประโยชน์ตามมาคือการชลประทานที่สามารถส่งน้ำให้กับพื้นที่เพาะปลูก เขื่อนที่สำคัญ เช่น เขื่อนศรีนครินทร์ในเขตอำเภอศรีสวัสดิ์ เขื่อนเขาแหลมในอำเภอทองผาภูมิ อำเภอสังขละบุรี และเขื่อนวชิราลงกรณ์ในอำเภอท่าม่วง
- แหล่งน้ำที่สำคัญ
- แม่น้ำแควใหญ่ (แม่น้ำศรีสวัสดิ์)
- แม่น้ำแควน้อย (แม่น้ำไทรโยค)
- แม่น้ำแม่กลอง
- แม่น้ำบีคลี่
- แม่น้ำซองกาเลีย
- แม่น้ำรันตี
- แม่น้ำภาชี
- แม่น้ำสุริยะ (แม่น้ำทรยศ ไหลย้อนไปทางเหนือเข้าเขตพม่า)
- ทะเลสาบเขื่อนศรีนครินทร์
- ทะเลสาบเขาแหลม
- ทะเลสาบท่าทุ่งนา
สัตว์ประจำถิ่น[แก้]
- ค้าวคาวกิตติ ถูกค้นพบครั้งแรกปี พ.ศ. 2516 โดยกิตติ ทองลงยา นักสัตววิทยาของสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย บริเวณถ้ำไทรโยค อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี ระหว่างทำการเก็บตัวอย่างค้างคาวในโครงการการสำรวจสัตว์ย้ายแหล่งทางพยาธิวิทยา กิตติพบค้างคาวที่มีขนาดเล็กมากซึ่งไม่เคยเห็นมาก่อน จึงได้ส่งตัวอย่างค้างคาวให้กับจอห์น เอ็ดวาร์ด ฮิลล์ (John Edward Hill) แห่งพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติ ประเทศอังกฤษ เพื่อตรวจพิสูจน์และพบว่าค้างคาวชนิดนี้มีลักษณะหลายอย่างเป็นแบบฉบับของตนเอง สามารถที่จะตั้งเป็นสกุลและวงศ์ใหม่ได้ หลังจากกิตติเสียชีวิตในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2517 ฮิลล์ได้จำแนกและตีพิมพ์ถึงค้างคาวชนิดนี้ และตั้งชื่อว่า Craseonycteris thonglongyai เพื่อเป็นเกียรติแก่กิตติ ทองลงยา ผู้ค้นพบค้างคาวชนิดนี้เป็นคนแรก สภาวะของค้างคาวคุณกิตติในประเทศพม่าไม่เป็นที่แน่ชัด และประชากรที่พบในประเทศไทยก็พบว่าจำกัดอยู่ในเพียงจังหวัดเดียว คือ จังหวัดกาญจนบุรี ทำให้ค้างคาวคุณกิตติอยู่ในสภาวะที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ สาเหตุหลักเกิดจากการคุกคามจากมนุษย์ และการลดลงของถิ่นที่อยู่อาศัย
- ปลายี่สก ชาวกาญจนบุรีมีความผูกพันธุ์กับปลาชนิดนี้มากถึงได้มาเป็นสัญลักษณ์ตามถนน ที่เข้าสู่ตัวเมืองกาญจน์เราจะเห็นตามเสาหลอดไฟที่เรืองรอง แล้วก็จะมีปลาชนิดหนึ่งอยู่บนเสาไฟตามถนนผ่านเส้นทางศาลากลางจังหวัดกาญจนบุรี จะมีตัวสีทองเหลืองอร่าม อยู่บนยอดมองเห็นได้อย่างชัดเจนก่อนที่จะมีเขื่องศรีนครินทร์ ปลายี่สกไทยจะไปวางไข่ตามเกาะแก่งต่าง ๆ ซึ่งมีอยู่หลากหลายการเดินทางมาผสมพันธุ์เสร็จแล้วก็จะกลับมาหากินตั้งแต่กาญจนบุรี ไปจนถึงสมุทรสงคราม เมื่อก่อนจะเจอปลาชนิดนี้บ่อยมาก แต่พอสร้างเขื่อนปลาชนิดนี้ในแหล่งน้ำธรรมชาติ ก็น้อยลงไป ตามระบบนิเวศน์ที่มีการเปลี่ยนแปลง ตั้งแต่ก่อนคนเมืองกาญจน์ ส่วนใหญ่ปลาชนิดนี้อยู่ที่แม่น้ำแม่กลองเอาเป็นว่าขายกันเป็นล่ำเป็นสัน ก็ว่าได้เนื่องจากหาง่าย ตัวใหญ่เนื้ออร่อย เช่น ต้มยำ แกงส้ม ลวกจิ้มสำหรับนักรับประทานปลา ถ้ามาถึงกาญจนบุรีแล้ว ไม่ได้รับประทาน "แสดงว่ายังมาไม่ถึงก็ว่าได้"
- ปูพระพี่นาง พบครั้งแรกในปี พ.ศ. 2542 บริเวณฝั่งลำห้วย ตำบลท่าแฉลบ อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี หลังจากนั้น ได้รับประทานอนุญาตจากสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ ให้ใช้ชื่อว่า "ปูพระพี่นาง" หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า "ปูป่า" มีกระดองสีแดงเลือดนก ขอบกระดอง ขอบเบ้าตา และปากเป็นสีแดงส้ม ขาเดินทั้ง 4 คู่ เป็นสีแดงเลือดนก ยกเว้นตรงปลายประมาณ 1 ใน 3 ของก้ามหนีบทั้ง 2 ข้าง เป็นสีขาว ปูพระพี่นางถือเป็นอีกหนึ่งปูน้ำจืดหายากของเมืองไทย
- ปูราชินี มีปากและขามีสีแดงและส้ม ก้ามมีสีขาว และกระดองมีสีน้ำเงินอมม่วง เชื่อว่าสามารถเปลี่ยนสีได้เรื่อย ๆ ตามฤดูกาล ตัวเต็มวัยมีขนาดประมาณ 12.5 มิลลิเมตร โดยทางจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้ขออนุญาตใช้ชื่อ สิริกิติ์ เป็นชื่อวิทยาศาสตร์ เพื่อเป็นเกียรติและเฉลิมฉลองครบรอบ 5 รอบของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และได้พระราชทานให้ในวันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2534 ปัจจุบันพบเป็นปูประจำถิ่นในป่าพรุน้ำจืดบริเวณลุ่มน้ำน้อย อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ และอุทยานแห่งชาติไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี และไม่เคยมีรายงานพบที่อื่นอีกเลย มีสถานภาพเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พุทธศักราช 2535
- ปูเจ้าฟ้า พบได้ในอำเภอทองผาภูมิ บริเวณน้ำตกและลำธาร
- ตะพาบแก้มแดง (อังกฤษ: Malayan solf-shell turtle; ชื่อวิทยาศาสตร์: Dogania subplana) เป็นตะพาบชนิดหนึ่งที่พบได้ในประเทศไทย ที่จังหวัดตาก จังหวัดกาญจนบุรี และจังหวัดชุมพร จัดเป็นตะพาบขนาดเล็กที่สุดเป็นอันดับสองที่พบในประเทศไทย (เล็กที่สุด คือ ตะพาบหับพม่า (Lissemys scutata)) กระดองสีเทาเข้มมีจุดสีดำทั่วไป หัวสีเทานวลมีรอยเส้นสีดำตลอดตามแนวกระดูกสันหลังจนถึงส่วนท้ายกระดอง มีสีแดงที่แก้มและข้างคอ เมื่อยังเล็กมีจุดสีดำคล้ายดวงตากระจายไปทั่วกระดองเห็นชัดเจน ตะพาบที่พบที่จังหวัดตากและกาญจนบุรีมีสีเข้มกว่าและไม่มีสีแดงที่แก้ม มีจมูกยาว หางสั้น และมีขาเล็ก
- กริวดาว เป็นตะพาบที่หายากมากที่สุด มีความแตกต่างจากตะพาบหัวกบ คือ มีจุดสีเหลืองอ่อนเป็นวงกระจายอยู่บริเวณขอบกระดอง โดยที่ไม่แปรเปลี่ยนไปตามวัย เหมือนตะพาบหัวกบ ซึ่งถึงแม้จะเป็นตะพาบขนาดใหญ่แล้ว แต่ลายจุดนี้ยังคงเห็นได้ชัดเจน ซึ่งกิตติพงษ์ได้ระบุไว้ว่า ตะพาบแบบนี้ไม่ได้พบเห็นมานานตั้งแต่ปี ค.ศ. 1991 หรือ พ.ศ. 2534 แล้ว และแต่เดิมก็พบเห็นได้ยากมาก ซึ่งถ้าใช้หลักการอนุกรมวิธานตามแบบปัจจุบัน เชื่อว่า กริวดาวต้องถูกจัดเป็นชนิดใหม่อย่างไม่ต้องสงสัย เนื่องจากมีความแตกต่างจากตะพาบหัวกบอย่างพอสมควร แต่เสียดายที่ไม่ได้มีการศึกษามากกว่านี้ เนื่องจากไม่มีตัวอย่างต้นแบบให้ศึกษา โดยตัวสุดท้ายที่ค้นพบและมีภาพถ่ายที่สมบูรณ์ มีขนาดยาวราว 30 เซนติเมตร น้ำหนัก 5 กิโลกรัม จับได้จากแม่น้ำแควใหญ่ ที่อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2529
สัญลักษณ์ประจำจังหวัด[แก้]
- คำขวัญประจำจังหวัด: แคว้นโบราณ ด่านเจดีย์ มณีเมืองกาญจน์ สะพานข้ามแม่น้ำแคว แหล่งแร่น้ำตก
- ตราประจำจังหวัด: รูปด่านพระเจดีย์สามองค์
- ต้นไม้ประจำจังหวัด: ขานาง (Homalium tomentosum)
- ดอกไม้ประจำจังหวัด: ดอกกาญจนิกา (Nyctathes arbotristis)
- ดอกกาญจนิกา ดอกไม้ประจำจังหวัด
- ขานาง ต้นไม้ประจำจังหวัด
แนวคิดเปลี่ยนคำขวัญจังหวัด[แก้]
เมืองขุนแผน แคว้นโบราณ ด่านพระเจดีย์ มณีนิลเมืองกาญจน์ สะพานข้ามแม่น้ำแคว แลเขื่อนสำคัญสี่แห่ง แหล่งแร่ น้ำตก มรดกโลกทุ่งใหญ่นเรศวรการเมืองการปกครอง[แก้]
หน่วยการปกครอง[แก้]
การปกครองส่วนภูมิภาค[แก้]
จังหวัดกาญจนบุรีแบ่งเขตการปกครองส่วนภูมิภาคออกเป็น 13 อำเภอ 95 ตำบล 959 หมู่บ้าน 206 ชุมชน โดยทั้ง 13 อำเภอ มีดังนี้การปกครองส่วนท้องถิ่น[แก้]
พื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีประกอบด้วยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้งหมด 122 แห่ง แบ่งตามประเภทและอำนาจบริหารจัดการภายในท้องที่ได้เป็น องค์การบริหารส่วนจังหวัด 1 แห่ง คือ องค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี, เทศบาลเมือง 2 แห่ง ได้แก่ เทศบาลเมืองกาญจนบุรี และเทศบาลเมืองท่าเรือพระแท่น, เทศบาลตำบล 47 แห่ง, และองค์การบริหารส่วนตำบล 72 แห่ง[6] รายชื่อเทศบาลทั้งหมดแบ่งตามอำเภอในจังหวัดกาญจนบุรี มีดังนี้อำเภอเมืองกาญจนบุรี
| อำเภอศรีสวัสดิ์
| อำเภอท่าม่วง
| อำเภอพนมทวน
|
รายนามเจ้าเมืองและผู้ว่าราชการจังหวัด[แก้]
|
|
ประชากร[แก้]
ประชากรจังหวัดกาญจนบุรีแบ่งตามปี | ||
---|---|---|
ปี | ประชากร | ±% |
2536 | 724,675 | — |
2537 | 736,996 | +1.7% |
2538 | 744,933 | +1.1% |
2539 | 756,528 | +1.6% |
2540 | 766,352 | +1.3% |
2541 | 775,198 | +1.2% |
2542 | 778,456 | +0.4% |
2543 | 786,001 | +1.0% |
2544 | 792,294 | +0.8% |
2545 | 801,836 | +1.2% |
2546 | 797,372 | −0.6% |
2547 | 810,339 | +1.6% |
2548 | 826,169 | +2.0% |
2549 | 834,447 | +1.0% |
2550 | 835,282 | +0.1% |
2551 | 840,905 | +0.7% |
2552 | 839,423 | −0.2% |
2553 | 839,776 | +0.0% |
2554 | 838,914 | −0.1% |
2555 | 838,269 | −0.1% |
2556 | 842,882 | +0.6% |
2557 | 848,198 | +0.6% |
2558 | 882,146 | +4.0% |
2559 | 885,112 | +0.3% |
2560 | 887,979 | +0.3% |
อ้างอิง: กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย[7] |
ชาติพันธุ์[แก้]
ในจังหวัดกาญจนบุรีมีประชากรหลายชาติพันธุ์ ได้แก่ภาษา[แก้]
มีกลุ่มชาติพันธุ์อาศัยอยู่ในบริเวณต่าง ๆ ของภาษาไทยถิ่นกาญจนบุรี ทำให้เกิดภาษาต่าง ๆ ที่ใช้พูดกันในจังหวัดกาญจนบุรีมีทั้งสิ้น 11 ภาษา โดยแบ่งออกเป็น 4 ตระกูลภาษา ได้แก่- ภาษาตระกูลไต ได้แก่ ภาษาไทยภาษาลาวโซ่งภาษาลาวพวนและภาษาลาวครั่ง
- ภาษาตระกูลมอญ-เขมร ได้แก่ ภาษามอญ ภาษาเขมร ภาษาขมุ
- ภาษาตระกูลกระเหรี่ยง ได้แก่ ภาษาละว้า (อุก่อง)
- ภาษาตระกูลทิเบต-พม่า ได้แก่ ภาษากระเหรี่ยง (ยาง) ภาษากระเหรี่ยงโปว์ ภาษาโพล่ว
- ภาษาไทย อยู่ทั่วไปในจังหวัดโดยเฉพาะในเขตเทศบาลและ อำเภอเมือง
- ภาษาลาวโซ่ง อำเภอสังขละบุรี อำเภอทองผาภูมิ อำเภอพนมทวน และ อำเภอบ่อพลอย
- ภาษาลาวครั่ง อำเภอด่านมะขามเตี้ย
- ภาษาลาวพวน อำเภอเลาขวัญ และ อำเภอพนมทวน
- ภาษามอญ อำเภอสังขละบุรี อำเภอเลาขวัญ และ อำเภอทองผาภูมิ
- ภาษาเขมร อำเภอไทรโยค อำเภอเลาขวัญ และ อำเภอศรีสวัสดิ์
- ภาษาขมุ อำเภอทองผาภูมิ อำเภอสังขละ และ อำเภอไทรโยค
- ภาษาละว้า อำเภอสังขละบุรี อำเภอทองผาภูมิ และ อำเภอศรีสวัสดิ์
- ภาษากระเหรี่ยง (ยาง) ภาษากระเหรี่ยงโปว์ และภาษาโผล่ว อำเภอทองผาภูมิ อำเภอไทรโยค อำเภอศรีสวัสดิ์ อำเภอสังขละบุรี
อีกประการหนึ่งพบว่า ระบบวรรณยุกต์ของภาษาไทยถิ่นกาญจนบุรีที่พูดกันที่อำเภอพนมทวน อำเภอท่าม่วง อำเภอด่านมะขามเตี้ย และ อำเภอห้วยกระเจา มีระบบวรรณยุกต์5 หน่วยเสียงเช่นเดียวกับภาษาไทยมาตรฐาน แต่ลักษณะการแยกเสียงรวมเสียงในกล่องวรรณยุกต์แตกต่างจากทั้งภาษาไทยมาตรฐานและภาษาไทยถิ่นกลางสำเนียงอื่น ๆ และพบว่าภาษาไทยถิ่นกาญจนบุรีที่พูดใน 4 อำเภอดังกล่าวมีสัทลักษณะของหน่วยเสียงวรรณยุกต์แตกต่างจากกัน ทำให้สามารถแยกภาษาถิ่นย่อยของภาษาไทยถิ่นกาญจนบุรีได้ นอกจากนี้พบว่าหน่วยเสียงวรรณยุกต์ทุกหน่วยเสียงมีการแปรของสัทลักษณะทั้งในแง่ของการขึ้น-ตก และระดับเสียงเมื่อปรากฏในบริบทต่าง ๆ โดยสัทลักษณะของหน่วยเสียงวรรณยุกต์ในคำชุดเทียบเสียงมีระดับเสียงและลักษณะการขึ้น-ตกของเสียงชัดเจนมากที่สุด และความชัดเจนจะลดน้อยลงเมื่อปรากฏในคำพูดต่อเนื่อง โดยที่หน่วยเสียงวรรณยุกต์ที่ปรากฏในพยางค์ที่ลงเสียงหนักจะมีสัทลักษณะแตกต่างกันมากกว่าในพยางค์ที่ไม่ลงเสียงหนัก และในแต่ละตำบลของแต่ละอำเภอก็ยังมีสำเนียงที่แตกต่างกันออกไปในหมู่บ้านของแต่ละตำบลก็ยังแตกต่างกันออกไปอีก เช่น ที่อำเภอท่าม่วงซึ่งมีความหลากหลายของสำเนียงเหน่ออย่างเห็นได้ชัด
วัฒนธรรม[แก้]
ความเชื่อ[แก้]
กาญจนบุรีเป็นดินแดนที่ตั้งอยู่ฝั่งชายแดนทางภาคตะวันตกของประเทศไทย มีประวัติความเป็นมาอันยาวนานทุกยุคสมัยต่อกันมาโดยไม่ขาดสาย ในการนับถือศาสนาของประชาชนในจังหวัดกาญจนบุรีจะมีทั้งศาสนาพุทธ ศาสนาคริสต์ ศาสนาอิสลาม ศาสนาฮินดู และรวมถึงศาสนาพราหมณ์ โดยศาสนาที่ประชาชนส่วนใหญ่ของจังหวัดกาญจนบุรีนับถือเป็นชาวพุทธ ศาสนาสถานต่าง ๆ มีวัดพุทธ 427 แห่ง สำนักสงฆ์ 170 แห่ง ที่พักสงฆ์ 104 แห่ง มัสยิด 3 แห่ง และโบสถ์คริสต์ 11 แห่ง ศาสนาเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวทางจิตใจเริ่มต้นจากรูปแบบความเชื่อที่ถือกันว่าเก่าแก่ที่สุดนั่นคือการนับถือภูตผีปีศาจเหตุนี้จึงก่อให้มีหลากหลายศาสนาเกิดขึ้น เป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไปว่าส่วนที่สำคัญในทุกวัฒนธรรมคือศาสนาเพราะศาสนามีผลต่อความรู้สึกนึกคิดประเพณีและเป็นแรงบันดาลใจให้มนุษย์ได้สร้างสรรค์วัฒนธรรมอื่น ๆ อีกเป็นอันมาก เพื่อเป็นแนวทางในการสืบทอดประพฤติปฏิบัติ ชาวบ้านในจังหวัดกาญจนบุรียังได้มีความเชื่อและความนับถือตั้งแต่บรรพบุรุษในเรื่องของผีสาง เทวดา เจ้าป่าเจ้าเขา เห็นได้ว่าการนับถือศาสนาและความเชื่อของคนกาญจนบุรีมีลักษณะพิเศษ กล่าวคือ นอกจากจะกราบไหว้บูชาพระพุทธรูปแล้ว ยังกราบไหว้บูชาศาลพระภูมิและผีสางเทวดา และยังมีความเกี่ยวพันกับพระพุทธศาสนาอย่างแน่นแฟ้น นอกจากนี้ ยังมีลักษณะที่ผสมผสานความเชื่อดั้งเดิมเข้ากับศาสนาพุทธและพราหมณ์ได้อย่างแนบสนิท ซึ่งจะยกตัวอย่างความเชื่อที่สืบทอดกันมาแต่ยาวนานที่สำคัญของจังหวัดกาญจนบุรี- หม้อยาย เป็นความเชื่อของชาวบ้านหนองขาว อำเภอท่าม่วง ที่ทุกบ้านจะมีหม้อดินแขวนไว้ ภายในหม้อบรรจุไวด้วยขี้ผึ้งปั้นเป็นรูปคน เชื่อว่า ยายจะช่วยปกปักษ์รักษาให้ทุกคนในบ้านอยู่เย็นเป็นสุข
- ศาลพ่อแม่ เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และเป็นศูนย์รวมใจของชาวบ้านในเรื่องพิธีกรรมความเชื่อมากกว่า 200 ปี ให้คุ้มครองและให้งานนั้น ๆ ดำเนินไปด้วยความเรียบร้อย และครอบครัวมีความอยู่ดีมีสุข
- ศาลเจ้าพ่อโรงหนัง เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และความเชื่อที่ชาวบ้านให้การนับถือและเป็นศูนย์รวมใจของชาวบ้านหนองขาวในการประกอบพิธีกรรม
- ศาลเจ้าพ่อขุนด่าน เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ประชาชนชาวอำเภอศรีสวัสดิ์เคารพนับถือ โดยจะมีการจัดทำบุญขึ้นทุกปี ที่ชาวบ้านเรียกว่าทำบุญกลางบ้าน
วิถีชีวิต[แก้]
- การแต่งกาย ชาวจังหวัดกาญจนบุรีโดยทั่วไปยกเว้นคนไทยเชื้อสายต่าง ๆ เช่น พม่า มอญ กะเหรี่ยง จะมี การแต่งกายคล้ายคลึงกับชาวจังหวัดอื่นในภาคกลาง คือเมื่ออยู่กับบ้านจะแต่งกายสบาย ๆ ไม่พิถีพิถัน แต่เมื่อเวลา ไปงานเลี้ยง งานบุญ งานพิธี ก็จะแต่งกายพิถีพิถันสวยงามตามสมัยนิยม
- การกินอยู่ เนื่องจากสภาพภูมิประเทศของจังหวัดกาญจนบุรีเป็นป่าเขา มีแม่น้ำลำธารมาก ทำให้มีพืชผัก ของป่าหลายชนิดที่ชาวบ้านรู้จักและนำมาปรุงเป็นอาหารพื้นบ้านรับประทานกันตลอดมา ผักบางชนิดคนจังหวัดอื่นไม่รู้จัก เช่น ผักหวานป่า ผักกูด ผักหนาม ดอกอีนูน ดอกดิน ลูกตาลเสี้ยน เห็ดรวก เห็ดไผ่
- อาหารพื้นบ้านมีอยู่หลายชนิดที่เป็นอาหารขึ้นชื่อที่ชาวต่างจังหวัดที่มาท่องเที่ยวจังหวัดกาญจนบุรีนิยมสั่งรับประทาน เช่น ยำเห็ดโคน ต้มยำปลายี่สก ปลารากกล้วยทอด แกงป่าปลาคัง และแกงป่าไก่ไทย นอกจากนี้ยังมีอาหารอีกประเภทหนึ่งที่ชาวจังหวัดกาญจนบุรีนิยมทำรับประทานมาตั้งแต่สมัยโบราณ คือแกงป่าที่ปรุงจากวัตถุดิบที่หาได้จากป่า ปลาแม่น้ำ ข้าวต้มมัดไต้ ข้าวหลาม ขนมจีน วุ้นเส้น
- กิริยามารยาทชาวกาญจนบุรีจะเป็นแบบบ้าน ๆ เรียบง่ายถือคำสัตย์หากเป็นนักเลงก็เป็นนักเลงที่มีสัจจะอยู่กันแบบสันติไม่ชอบวิวาทกับใครแต่หากมีใครล่วงเกินก็ไม่ยอมใครเช่นกัน
- วิถีการดำเนินชีวิตแบบไทยเดิม ครอบครัวที่อยู่รวมกันเป็นครอบครัวใหญ่ ปู่ ย่า ตา ยาย และญาติพี่น้องยังอยู่รวมกัน มีความเคารพตามลำดับอาวุโส
- รำเหย่ย เป็นการละเล่นพื้นเมืองของชาวกาญจนบุรีมาแต่บรรพกาลราว ๆ 500 ปีเศษมาแล้ว จะเล่นกันในเทศกาลตรุษสงกรานต์ ปีใหม่ เป็นต้น วิธีการเล่นคือ ฝ่ายชายฝ่ายหญิงยืนล้อมวงกัน มีการร้องนำ ร้องแก้ และลูกคู่ ร้องรับพร้อมปรบมือเป็นจังหวะ
งานเทศกาลประเพณี[แก้]
- งานวันอาบน้ำแร่แช่น้ำตก จัดขึ้นบริเวณพุน้ำร้อนหินดาด หมู่ 5 ตำบลหินดาด อำเภอทองผาภูมิ ในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน ภายในงานมีกิจกรรมออกร้านผลิตผลและผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร นิทรรศการการท่องเที่ยวของอำเภอทองผาภูมิ นักท่องเที่ยวยังจะได้อาบน้ำแร่ที่พุน้ำร้อนหินดาดและเที่ยวชมความงามของน้ำตกผาดาด
- งานเทศกาลชาวเรือชาวแพ จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน ที่บริเวณถนนสองแคว ริมน้ำหน้าเมืองกาญจนบุรี ภายในงานมีกิจกรรมการละเล่นพื้นบ้าน การแสดงมหกรรมลูกทุ่ง นิทรรศการทางวิชาการเกี่ยวกับการอนุรักษ์แม่น้ำลำคลอง และการแข่งขันกีฬาทางน้ำประเภทต่าง ๆ อาทิ เรือยาว เรือเร็ว เจ็ตสกี เป็นต้น
- งานสัปดาห์สะพานข้ามแม่น้ำแคว จัดขึ้นทุกปีบริเวณสะพานข้ามแม่น้ำแคว ในราวปลายเดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือนธันวาคม เพื่อรำลึกถึงความสำคัญของการสร้างทางรถไฟสายมรณะและสะพานข้ามแม่น้ำแคว ซึ่งเป็นเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 มีการแสดงนิทรรศการทางประวัติศาสตร์และโบราณคดี การแสดงพื้นบ้าน การออกร้านจำหน่ายสินค้าต่าง ๆ กิจกรรมบันเทิงและการแสดงแสงและเสียง
- งานสงกรานต์วัฒนธรรมหมู่บ้านหนองขาว บ้านหนองขาวคือหมู่บ้านที่มีการรักษาขนบธรรรมเนียมประเพณีเอาไว้ตลอดหลายชั่วอายุคน และมรดกเหล่านีถูกนำเสนอมาแสดงออกผ่านเทศการประจำปีของหมู่บ้านที่จัดในช่วงวันสงกรานต์ โดยเริ่มตั้งแต่ช่วงเช้าตรู่ที่ชาวบ้านจะร่วมทำบุญตักบาตร จากนั้นในช่วงสายจะมีการประกวดธิดาเกวียนของแต่ละหมู่บ้าน การละเล่นพื้นบ้านต่าง ๆ ที่สร้างความสามัคคีขงอชาวบ้านภายในหมู่บ้าน การจำลองวิธีชิวีตของชาวบ้าน เช่น การทำขนมจีนสูตรพื้นบ้าน การทำตาลโตนต การทอผ้าซิ่น การแข่งขักิฬาเชื่อมความสัมพันธ์ของคนในหมู่บ้าน
- งานเทศการเห็ดโคน และอัญมณี อำเภอบ่อพลอย จัดขึ้นในช่วงเดือนตุลาคมของทุกปี ภาย ในงานมีการจัดแสดงนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับวงจรชีวิตของเห็ดโคน ที่ยังไม่สามารถเพราะพันธ์ได้ การสาธิตแปรรูปอาหารจากเห็ดโคน สามารถเลือกชิมได้และยังมีการจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับการทำเหมืองพลอย การเจียระไนพลอย รวมถึงการออกร้านจำหน่ายอัญมณีจากหลายร้านด้วย
- งานสงกรานต์มอญ จัดขึ้ในช่วงวันที่ 13 -15 เมษยนของทุกปี ที่บริเวณวัดวังก์วิเวการาม ช่วงเช้าชาวบ้านมากหน้าหลายตาจะพากันมาทำบุญตักบาตร์อย่างเนื่องแน่น มีการก่อเจดีย์ทรายขนาดใหญ่ การรดน้ำพระสงฆ์มอญ และวันนี้ชาวมอญจะมีการแต่งตัวด้วยเสือผ้าแบบมอญที่สวยงาม มีกิจกรรมการละเล่นพื้นบ้าน อย่างการละเล่นสะบ้าที่หาดูได้ยาก และมีอาหารพื้นบ้านแบบมอญให้ชิมด้วย
- ประเพณีฟาดข้าวชาวกะเหรี่ยง อยู่ที่ ต.ไล่โว่ อำเภอสังขละบุรี เป็นงานประเพณีที่ปฏิบัติสืบต่อกันมานานแต่โบราณ นับว่าเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่น หรื่อความสามารถของผู้เฒ่าผู้แก่ที่จะให้ลูหลานมีความสมานสามัคคีกันไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ยังมาช่วยเหลือซื่งกันและกัน
- งานแผ่นดินสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว "วันสร้างเมืองกาญจนบุรี" จัดขึ้นเพื่อแสดงความกตัญญูกตเวทีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวที่มีต่อชาวจังหวัดกาญจนบุรีให้ประชาชนเกิดความสำนึกในคุณค่าทางประวัติศาสตร์ เป็นการสร้างเสริมอนุรักษ์มรดกทางประวัติศาสตร์เมืองกาญจนบุรี และเพื่อให้ภาครัฐ เอกชนและประชาชนมีส่วนร่วมในกิจกรรม
- งานสมโภชศาลหลักเมืองกาญจนบุรี มีการจัดงานประจำปีศาลเจ้าพ่อหลักเมือง โดยมีพิธีทางสงฆ์และพิธีทางพราหมณ์ ในพิธีบวงสรวงนี้ มีทั้งพิธีทางสงฆ์และพิธีทางพรามณ์จะเป็นการอัญเชิญเทพยาดา และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่สถิตปกปักรักษาเมืองกาญจนบุรี มารับการบวงสรวง ซึ่งพิธีบวงสรวงดังกล่าวได้มีการจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อความเป็นสิริมงคลของประชาชนในจังหวัดกาญจนบุรี ภายในงานจะมีสินค้าจำหน่ายให้กับผู้ที่มาเที่ยวชมภายในมากมาย นอกจากนี้กลางคืน ยังมีการแสดงคอนเสิร์ตจากศิลปิน ที่มีชื่อเสียงและการแสดงมหรสพสมโภชอย่างยิ่งใหญ่
- ประเพณีสงกรานต์แห่ปราสาทผึ้ง เป็นประเพณีที่สืบทอดมายาวนาน การทำบุญตักบาตร การสรงน้ำพระพุทธรูป การละเล่นพื้นบ้าน ชมการแสดงมหรสพ และร่วมสนุกกับกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งนี้ ประเพณีการ แห่ปราสาทผึ้งของชาวหนองปรือเกิดขึ้นจากรากฐานความเชื่อของบรรพบุรุษของชาวหนองปรือที่มีเชื้อสายมาจากชาวเวียงจันทน์ซึ่งมีความเชื่อว่าการได้ถวายน้ำผึ้งเป็นพุทธบูชาจะได้อานิสงส์ยิ่ง ตามที่กล่าวไว้ในพุทธประวัติ จึงทำให้เกิดประเพณีการตีผึ้งขึ้นในเดือนเมษายน ชาวบ้านที่เป็นชายจะหยุดกิจการงานทั้งปวง เพื่อออกหาผึ้งและนำน้ำผึ้งมาถวายพระสงฆ์ ส่วนรังผึ้งชาวบ้านจะนำมารวมกันแล้วเคี่ยวทำเป็นเทียนจุดให้ แสงสว่างแก่พระสงฆ์เพื่อพระสงฆ์จะได้ใช้จุดให้แสงสว่างเวลาศึกษาพระธรรมในตอนกลางคืนหรือจุดบูชาพระ อีกส่วนหนึ่งจะนำมาทำเป็นปราสาท แกะสลักตกแต่งอย่างสวยงาม และแห่ไปถวายพระสงฆ์ที่วัดกิจกรรมภายในงาน ได้แก่ การแห่ปราสาทผึ้งด้วยริ้วขบวนรถที่มีการประดับตกแต่งอย่างสวยงาม ริ้วขบวนของชุมชนต่าง ๆ การทำบุญตักบาตรและสรงน้ำพระที่วัดของชุมชน การแสดงการละเล่นพื้นบ้านที่หา ชมได้ยากเป็นการละเล่นประจำถิ่น การชมมหรสพดนตรี และการออกร้านจำหน่ายสินค้า เลือกหาเลือกซื้อได้อย่างมากมาย
- งานบุญเดือน 10 ลอยเรือสะเดาะเคราะห์ เป็นงานบุญประจำปีของชาวไทยเชื้อสายมอญ หรือแม้แต่ชาวมอญที่อาศัยอยู่ในประเทศพม่าโดยยึดถือปฏิบัติมาเป็นเวลาช้านาน
- ประเพณีรดน้ำต้นโพธิ์ และออกร้านตลาดนิพพาน ที่วัดวังก์วิเวการาม อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี มีประเพณีที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน และถือปฏิบัติกันในทุกวันเพ็ญเดือน ๖ นี้ด้วย นั่นคือ “ประเพณีรดน้ำต้นโพธิ์” ซึ่งแต่เดิมเป็นพิธีที่พุทธศาสนิกชนในพม่าปฏิบัติกันในวันวิสาขบูชา แต่สำหรับในประเทศไทยนั้น จะพบได้ที่ชุมชนชาวมอญสังขละบุรี ที่วัดวังก์วิเวการาม แห่งนี้เพียงแห่งเดียวเท่านั้น
- ประเพณียกธงสงกรานต์ ประเพณีสำคัญของชาวเบญพาด ตำบลพังตรุ อำเภอพนมทวน จังหวัดกาญจนบุรี ที่ชาวบ้านสืบต่อกันมามากกว่า 100 ปี ผู้เฒ่าผู้แก่ในหมู่ 13 บ้านเบญพาด เล่าว่า เมื่อถึงเทศกาลสงกรานต์ชาวบ้านจะร่วมกันทำธงตลอด 5 วัน คือตั้งแต่วันที่ 13 จนถึงพิธีแห่วันที่ 17 เม.ย. ของทุกปีเริ่มจากชาวบ้านแต่ละหมู่บ้าน จะเข้าไปหาต้นไผ่ลำต้นยาวตรงและมีกิ่งก้านแตกแขนง นำมาใช้เป็น “ธง” และจะช่วยกันเย็บผ้าผืนใหญ่ที่มีความยาวพอดีกับความสูงของต้นไผ่ ประดับด้วยลูกปัดสวยงาม ทำเป็น “ผ้าธง” อันเป็นสองส่วนประกอบหลักของธงสงกรานต์ ส่วนของกิ่งก้านบริเวณปลายต้นไผ่ชาวบ้านจะช่วยกันประดิษฐ์ของตกแต่ง เช่น ใยแมงมุม ดอกไม้ ปลาตะเพียนสาน นกสาน ตะกร้อ หรือแล้วแต่ธีมของหมู่บ้านนั้นที่ตกลงกัน ในอดีตของตกแต่งธงจะใช้พวกเศษผ้าสี ใบลาน ใบตาล ปุยฝ้าย หรือของประดิษฐ์จากธรรมชาติ
- ประเพณีตักบาตรดอกไม้ ในจังหวัดกาญจนบุรีมีที่วัดดอนคราม ตำบลเขาน้อย อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี เพียงที่เดียวประชาชนตำบลเขาน้อย จะร่วมตักบาตรดอกไม้ เนื่องในวันอาสาฬบูชา และเทศกาลเข้าพรรษาโดยเป็นประเพณีที่ยึดถือกันมาอย่างยาวนาน จะมีประชาชนนำดอกไม้นานชนิดมาร่วมตักบาตรให้กับพระภิกษุสงฆ์ตามความเชื่อในสมัยพุทธกาล ก่อนที่จะนำไปถวายแด่องค์พระพุทธและถาวรวัตถุต่าง ๆ ภายในวัดดอนครามแห่งนี้ ถือเป็นประเพณีที่บุญกุศลอันยิ่งใหญ่และสวยงามจากพันธุ์ดอกไม้นานาชนิดโดยเฉพาะดอกบัว ดอกกระเจียว ดอกดาวเรืองจะที่เป็นที่นิยมนำมาใส่บาตรกัน
- ประเพณีร่อยพรรษา เป็นประเพณีที่ช่วยส่งเสริมทำนุบำรุงศาสนาให้คงอยู่โดยการสนับสนุนกำลังปัจจัยสิ่งของต่าง ๆ นำเข้าวัด โดยใช้เพลงร่อยพรรษาซึ่งเป็นเพลงพื้นบ้านของจังหวัดกาญจนบุรี เป็นการตั้งใจร้อง เพราะมีความศรัทธาในการทำบุญทางพระพุทธศาสนาเป็นหลัก
โครงสร้างพื้นฐาน[แก้]
การศึกษา[แก้]
- อุดมศึกษา
- มหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี
- มหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตกาญจนบุรี
- มหาวิทยาลัยเวสเทิร์น
- มหาวิทยาลัยรามคำแหง สาขาวิทยบริการเฉลิมพระเกียรติกาญจนบุรี
- โรงเรียน
สาธารณสุข[แก้]
- โรงพยาบาลรัฐบาล
- โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา จังหวัดกาญจนบุรี อำเภอเมืองกาญจนบุรี (ประจำจังหวัด)
- โรงพยาบาลสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 19 (เจริญ สุวฑฺฒโน) จังหวัดกาญจนบุรี อำเภอท่าม่วง
- โรงพยาบาลมะการักษ์ อำเภอท่ามะกา
- โรงพยาบาลเจ้าคุณไพบูลย์ พนมทวน อำเภอพนมทวน
- โรงพยาบาลสมเด็จพระปิยมหาราชรมณียเขต อำเภอไทรโยค
- โรงพยาบาลไทรโยค อำเภอไทรโยคตอนล่าง
- โรงพยาบาลด่านมะขามเตี้ย อำเภอด่านมะขามเตี้ย
- โรงพยาบาลทองผาภูมิ อำเภอทองผาภูมิ
- โรงพยาบาลสังขละบุรี อำเภอสังขละบุรี
- โรงพยาบาลศุกร์ศิริศรีสวัสดิ์ อำเภอศรีสวัสดิ์
- โรงพยาบาลบ่อพลอย อำเภอบ่อพลอย
- โรงพยาบาลสถานพระบารมีหนองปรือ อำเภอหนองปรือ
- โรงพยาบาลห้วยกระเจาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา อำเภอห้วยกระเจา
- โรงพยาบาลเลาขวัญ อำเภอเลาขวัญ
- โรงพยาบาลค่ายสุรสีห์ จังหวัดทหารบกกาญจนบุรี
- โรงพยาบาลเอกชน
- โรงพยาบาลกาญจนบุรีเมโมเรียล
- โรงพยาบาลธนกาญจน์
- โรงพยาบาลแสงชูโต
ที่สุดในประเทศไทย[แก้]
- ปราสาทขอมโบราณซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกที่สุด คือ ปราสาทเมืองสิงห์ อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี
- ทางหลวงพิเศษซึ่งเป็นสายแรกที่เชื่อมต่อไปยังประเทศพม่า นิยมเรียกว่า มอเตอร์เวย์สายบางใหญ่–บ้านโป่ง–กาญจนบุรี หรือ มอเตอร์เวย์สายตะวันตก ทางหลวงพิเศษหมายเลข 81 ผ่านอำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี, อำเภอท่ามะกา อำเภอท่าม่วง อำเภอเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี เป็นเส้นทางในการเชื่อมต่อท่าเรือน้ำลึกทวาย
- เขื่อนหินถมแกนดินเหนียวที่ใหญ่ที่สุดของไทย คือ เขื่อนศรีนครินทร์ (เจ้าเณร) อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี มีความจุ 17,745 ล้านลูกบาศก์เมตร
- กาญจนบุรีมีการปลูกอ้อยกันมากที่สุดในประเทศไทย
- ค้างคาวที่มีขนาดเล็กที่สุดคือค้างคาวคุณกิตติซึ่งพบได้ที่เดียวเท่านั้นคือที่จังหวัดกาญจนบุรี
สถานที่สำคัญ[แก้]
เรื่องราวทางประวัติศาสตร์ เหตุการณ์ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 มีอนุสรณสถานหลายแห่งปรากฏให้เห็นเป็นหลักฐาน เช่น สะพานข้ามแม่น้ำแคว สุสานทหารสัมพันธมิตร พิพิธภัณฑ์ช่องเขาขาด ฯลฯ- อุทยาน
- น้ำตก
- น้ำพุร้อน
- น้ำพุร้อนหินดาด
- เขื่อน
- วัด
- วัดสิริกาญจนาราม (ยุต) (วัดเขาพุรางบน) ตำบลท่ามะขาม อำเภอเมืองกาญจนบุรี
- วัดไชยชุมพลชนะสงคราม (วัดใต้) (หลวง)
- วัดสระลงเรือ (เรือสุพรรณหงส์จำลองที่ใหญ่ที่สุดในโลก)
- วัดทิพย์สุคนธาราม (พระพุทธเมตตาประชาไทยไตรโลกนาถคันธารราฐอนุสรณ์)
- วัดสุนันทวนาราม
- วัดวังก์วิเวการาม (วัดหลวงพ่ออุตตมะ)
- วัดวังขนายทายิการาม (มีบ่อน้ำแร่)
- วัดป่าหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน (วัดเลี้ยงเสือ)
- วัดถ้ำเสือ-วัดถ้ำเขาน้อย
- วัดเมตตาธรรมโพธิญาณ
- วัดถ้ำพรหมโลกเขาใหญ่ (พระอาจารย์วินัยธรวันชัย ปัญญาสาโร หลวงพ่อล้าน)
- วัดพ่อขุนเณร (เขื่อนศรีนครินทร์)
- วัดพระแท่นดงรัง (หลวง)
- วัดถาวรวราราม (วัดญวณ)
- วัดเทวสังฆาราม (วัดเหนือ) (หลวง)
- วัดบ้านถ้ำ (มังที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ)
- อื่น ๆ
- ท่าเรือปากแซง
- สะพานข้ามแม่น้ำแคว
- ทางรถไฟสายมรณะ
- สุสานทหารสัมพันธมิตรดอนรัก
- สุสานทหารสัมพันธมิตรเขาปูน
- สะพานอุตตมานุสรณ์
- พิพิธภัณฑ์ทางรถไฟไทย-พม่า
- พิพิธภัณฑ์สงครามโลก]
- ช่องเขาขาด อำเภอไทรโยค
- สวนหินสมเด็จพระศรีนครินทร์
- ด่านเจดีย์สามองค์
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร
- สนามกีฬา
- สนามกีฬาจังหวัดกาญจนบุรี (สนามกลีบบัว)
- สนามกีฬา36 พรรษา สยามบรมราชกุมารี
- สนามกีฬาสมเด็จพระญาณสังวร
- สนามกีฬา มหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี
- สนามกีฬาท่าม่วง
- สนามกีฬาสังขละบุรี
บุคคลสำคัญ[แก้]
- สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก – สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ 19 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
- พระมหาคณานัมธรรมปัญญาธิวัตร (เจริญ กิ๊นเจี๊ยว) – เจ้าคณะใหญ่อนัมนิกาย
- พระมหาคณาจารย์จีนธรรมสมาธิวัตร (เย็นเต็ก) – เจ้าคณะใหญ่จีนนิกาย
- พระสมณานัมวุฑฒาจารย์ไพศาลคณกิจ (โฝ พ็องเดี้ยว) - รองเจ้าคณะใหญ่อนัมนิกาย
- พระเทพมงคลรังษี (ดี พุทธโชติ) – พระเกจิอาจารย์
- พระวิสุทธรังษี (เปลี่ยน อินฺทสโร) – อดีตเจ้าอาวาสวัดไชยชุมพล
- หลวงปู่ยิ้ม จนฺทโชติ – พระเกจิอาจารย์
- พระพรหมโมลี (วิลาศ ญาณวโร) - เจ้าคณะภาค1
- พระเผด็จ ทตฺตชีโว - พระสงฆ์
- บุญหลง พหลพลพยุหเสนา - ภริยานายกรัฐมนตรีไทย
- พิจ พหลพลพยุหเสนา - ภริยานายกรัฐมนตรีไทย
- กรรณาภรณ์ พวงทอง – นักแสดง
- พุทธิดา สมัยนิยม - มิสแกรนด์กาญจนบุรี
- จำรัส มังคลารัตน์ – นักการเมือง
- ฉัตรชัย เปล่งพานิช – นักแสดง
- ฉัตรพันธ์ เดชกิจสุนทร – นักการเมือง
- ชาญ อังศุโชติ – นักการเมือง
- แมน เนรมิตร – นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง เจ้าของผลงานเพลง "ชวนชม"
- ดวงตา คงทอง – นักร้อง
- สยามรัฐ บัวเจริญ - นักแสดง
- ดีพร้อม ไชยวงศ์เกียรติ
- ตี๋ ดอกสะเดา – นักแสดงตลก
- ธรรมวิชญ์ โพธิพิพิธ – นักการเมือง
- ธัญญ์ ธนากร – นักแสดง
- ธัญญา โสภณ – นักแสดง
- เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ – กวีไทย
- บุญผ่อง สิริเวชชะพันธ์ – อดีตนายกเทศมนตรีเมืองกาญจนบุรี
- ปฏิภาณ เพ็ชรพูล – นักฟุตบอลทีมชาติไทย
- ประเวศ วะสี – นักวิชาการด้านสาธารณสุขและการศึกษาชาวไทย
- ปราโมทย์ ธีระวิวัฒน์ – อดีตนักกีฬาแบดมินตันชายชาวไทย
- แผน สิริเวชชะพันธ์ – นักการเมือง
- พิจิตตรา สิริเวชชะพันธ์ – นักแสดง นางแบบ
- รวมศักดิ์ ไชยโกมินทร์ – อดีตแม่ทัพภาคที่ 3 ที่ปรึกษาทางด้านประวัติศาสตร์แก่กองทัพบก
- วิกรม กรมดิษฐ์ – นักธุรกิจและนักเขียนชาวไทย
- วิไล พนม – นักร้องลูกทุ่งชาวไทย
- วีระเดช โค๊ธนี – นักกีฬาฟันดาบ
- ศตวรรษ เศรษฐกร – นักร้องนักแสดงชาวไทย
- ศรชัย มนตริวัต – นักการเมือง
- สมคิด พงษ์อยู่
- สมศักดิ์ ชัยสงคราม – อดีตนักแสดงชาวไทย
- สุพจน์ จดจำ - นักกีฬาฟุตบอลทีมชาติไทย
- สุเชาว์ นุชนุ่ม – นักฟุตบอลทีมชาติไทย
- หนึ่งเดียว ศักดิ์จารุพร – นักมวย
- ปฐมสิทธิ์ ปฐมโพธิ์ทอง - นักมวย
- อารีย์ วิรัฐถาวร – เล่นกีฬายกน้ำหนัก
- เดชา พิศสมัย – นักคาราเต้-โด ทีมชาติไทย
- สุทัตตา เชื้อวู้หลิม - นักกีฬาวอลเลย์บอลทีมชาติไทย
- เวฬุรีย์ ดิษยบุตร – มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2557 / นักแสดง / พิธีกรรายการสตรอเบอรี่ชีสเค้ก
- นันทิกานต์ สิงหา – นักแสดง / พิธีกรรายการสตรอเบอรี่ชีสเค้ก
- กิติพัทธ์ ชลารักษ์ – พิธีกรรายการเทยเที่ยวไทย
- ศักดา แก้วบัวดี – นักแสดงภาพยนตร์เทศกาลภาพยนตร์เมืองกาน
- อินทรีน้อย ลูกหนองไก่ขัน – นักมวยไทยในชุดลิเก
- เฉลียว ยางงาม – วีรบุรุษสงครามเวียดนาม
- ชนัตถ์ ดำรงเถกิงศักดิ์ – นักร้อง
- พินิจ จันทร์สมบูรณ์ – นักการเมือง
- ปารเมศ โพธารากุล – นักการเมือง
- นที รักษ์พลเมือง – คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล
- มนตรี มงคลสมัย – อดีตศาสตราจารย์และหัวหน้าภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- นพดล อินนา – นักการเมือง
- สุชาติ หนองบัว – ราชองค์รักษ์พิเศษ
- อิสรพงศ์ ดอกยอ – นักร้อง
- รัชพงศ์ ทิวะธนเศรษฐ์ - นักแสดง
- จรัญ งามดี - นักแสดง
เมืองพี่เมืองน้อง[แก้]
- จีน เขตการปกครองตนเองชนชาติอี๋เหลียงซาน มณฑลเสฉวน สาธารณรัฐประชาชนจีน
อ้างอิง[แก้]
- กระโดดขึ้น ↑ ศูนย์สารสนเทศเพื่อการบริหารและงานปกครอง. กรมการปกครอง. กระทรวงมหาดไทย. "ข้อมูลการปกครอง." [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: http://www.dopa.go.th/padmic/jungwad76/jungwad76.htm [ม.ป.ป.]. สืบค้น 18 เมษายน 2553.
- กระโดดขึ้น ↑ กรมการปกครอง. กระทรวงมหาดไทย. "ประกาศสำนักทะเบียนกลาง กรมการปกครอง เรื่อง จำนวนราษฎรทั่วราชอาณาจักร แยกเป็นกรุงเทพมหานครและจังหวัดต่าง ๆ ตามหลักฐานการทะเบียนราษฎร ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2560." [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: http://stat.bora.dopa.go.th/stat/pk/pk_57.pdf 2558. สืบค้น 6 กุมภาพันธ์ 2561.
- ↑ กระโดดขึ้นไป: 3.0 3.1 3.2 "ประวัติศาสตร์ จังหวัดกาญจนบุรี." [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: http://www.oceansmile.com/K/Kanjanaburi/Kan1.htm สืบค้น 28 พฤษภาคม 2561.
- กระโดดขึ้น ↑ "ประวัติความเป็นมาของจังหวัดราชบุรี." [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: http://www.finearts.go.th/fad1/parameters/km/item/ประวัติความเป็นมาของจังหวัดราชบุรี.html สืบค้น 28 พฤษภาคม 2561.
- กระโดดขึ้น ↑ “ศรีศัมพูกปัฏฏนะ” วิษัยนครตะวันตก .....ที่สาบสูญ สืบค้น 28 พฤษภาคม 2561.
- กระโดดขึ้น ↑ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น. กระทรวงมหาดไทย. "สรุปข้อมูล อปท ทั่วประเทศ." [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: http://www.dla.go.th/work/abt/index.jsp 2556. สืบค้น 20 กันยายน 2556.
- กระโดดขึ้น ↑ สำนักบริหารการทะเบียน. กรมการปกครอง. กระทรวงมหาดไทย. "จำนวนประชากรและบ้าน." [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: http://stat.bora.dopa.go.th/stat/statnew/statTDD/ 2561. สืบค้น 6 กุมภาพันธ์ 2561.
- กระโดดขึ้น ↑ สำนักบริหารการทะเบียน. กรมการปกครอง. กระทรวงมหาดไทย. "รายงานสถิติจำนวนประชากรและบ้าน ประจำปี พ.ศ. 2560 จังหวัดกาญจนบุรี." [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: http://stat.bora.dopa.go.th/stat/statnew/statTDD/views/showDistrictData.php?rcode=71&statType=1&year=60 สืบค้น 28 พฤษภาคม 2561.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น